Professor Muhammad Yunus: ผู้ริเริ่มและพัฒนาแนวคิด “ไมโครเครดิต”

by sirdi
0 comments

 

ธนาคารกรามีน (Grameen Bank)

          ธนาคารกรามีน หรือธนาคารเพื่อคนจนที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1983 ที่บังคลาเทศ เป็นผลงานที่มีวิวัฒนาการร่วมกันของศาสตราจารย์มูฮัมหมัด ยูนุส เจ้าหน้าที่สนับสนุน นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ที่เป็นลูกศิษย์ของศาสตราจารย์จากคณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยจิตตะกองที่ร่วมกันออกค่ายอาสาสมัครเพื่อการพัฒนาชนบทตามโครงการนาปันสาม (Three Share Farm) ที่หมู่บ้านโชบรา (Jobra village) เมื่อปี ค.ศ. 1976 และเครือข่ายผู้กู้ (Borrower’s network) ที่มีการจัดตั้งกลุ่มขึ้นตามแนวทางของกลุ่มจัดการตนเอง (Self-Help Group) ขึ้นเป็นกลไกของการจัดการทุนทางสังคม (Social Capital) ให้เป็นเครื่องมือกำกับการใช้จ่ายและการใช้คืนเงินที่กู้ยืม แทนการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันตามหลักการทั่วไปของธนาคารพาณิชย์ (Commercial Bank) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า ธนาคารกรามีน เป็นธนาคารที่ให้กู้ยืมโดยไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน (Free-collateral banking) แต่เป็นแทนที่การค้ำประกันด้วยการสร้างประกันการกู้ยืมด้วยกระบวนการทางสังคม

ภาพประกอบที่ 1 ศาสตราจารย์ ดร.มูฮัมหมัด ยูนุส: ผู้ริเริ่มและพัฒนาแนวคิด “ไมโครเครดิต”
ที่มา: Grameen bank, n.d.

          ศาสตราจารย์ยูนุส จบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์บัณฑิต และมหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยดักกา (Dhaka University) แล้วเริ่มงานเป็นผู้ช่วยนักวิจัยในคณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัย และเป็นอาจารย์ผู้สอนที่มหาวิทยาลัยจิตตะกอง ในปี ค.ศ. 1961 และได้รับทุนฟูลไบรท์ ไปศึกษาต่อในระดับดุษฎีบัณฑิตด้านเศรษฐศาสตร์พัฒนา ที่ Vanderbilt University ในปี ค.ศ. 1965 สำเร็จการศึกษาในปี ค.ศ. 1971 ในระหว่างนั้น ยูนุส ได้รับแต่งตั้งเป็นอาจารย์ประจำที่ Middle Tennessee State University (ปี 1969-1972) ต่อมาได้เดินทางกลับบังคลาเทศหลังจากสงครามกลางเมืองยุติลงและบังคลาเทศได้แยกประเทศออกจากปากีสถานตะวันตกเพื่อร่วมบริหารงานนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ ได้ย้ายจากงานบริหารไปเป็นคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยจิตตะกอง และได้ริเริ่มพัฒนาโครงการพัฒนาชนบทเพื่อแก้ปัญหาความยากจนและความอดอยากหิวโหย (หลังจากที่ประเทศประสบภาวะขาดแคลนอาหาร ในปี ค.ศ. 1974) และริเริ่มโครงการนาปันสาม ซึ่งเป็นโครงการผลิตข้าวหรือการผลิตทางการเกษตรจากผู้เกี่ยวข้องจาก 3 ฝ่าย คือ เจ้าของที่ดิน (แต่ปล่อยให้ว่าง ไม่ใช้ประโยชน์) แรงงาน (ผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกิน แต่ประสงค์ใช้แรงงานในโครงการ) และนักศึกษามหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเจ้าของทุนและรับผิดชอบในงานการตลาด โครงการดังกล่าวมีปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการมาก เพราะต้องเจรจาต่อรองไปพร้อม ๆ กับการสื่อสารทำความเข้าใจทั้งด้านเจ้าของที่ดิน แรงงาน และนักศึกษา กว่าจะตกลงกันได้ในแต่ละแปลงแต่ละโครงการต้องใช้เวลานาน ในระหว่างนั้น ก็พบว่า มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่มีอาชีพจากการขายโต๊ะและเก้าอี้ไม้ไผ่ และมีรายได้และการไหลเวียนทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าการผลิตและขายผลผลิตทางการเกษตร แต่พวกเขามีปัญหาการกู้ยืมจากเงินกู้เอกชนที่มีอัตราดอกเบี้ยที่แพงกว่าการกู้เงินจากระบบธนาคาร อันเป็นปัญหาของการเข้าถึงแหล่งทุนทางการเงิน และการค้ำประกันโดยหลักทรัพย์ พร้อมกับข้อสังเกตว่า ทำไมธุรกิจเงินกู้เอกชนจึงดำรงอยู่และเติบโตได้ทั้ง ๆ ที่ไม่มีการค้ำประกันด้วยหลักทรัพย์

          ยูนุส ทดลองใช้เงิน 27 ดอลลาร์สหรัฐให้สมาชิกชุมชน กู้ยืมไปดำเนินธุรกิจรายย่อยในชุมชน จำนวน 42 ราย พวกเขาพบว่า เขาได้รับเงินคืนครบตามกำหนด ยูนุสและคณะ จึงมีข้อสรุปร่วมกันว่า ข้อมูลการประกอบธุรกิจรายย่อยที่ผู้กู้ไปประกอบการนั้นเป็นที่รับรู้ร่วมกันว่าเป็นกิจการที่มีอยู่จริง มีโอกาสที่ขายได้และผู้ให้กู้มีโอกาสที่จะได้รับเงินคืนตามกำหนด ในขณะที่หลักทรัพย์ค้ำประกันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับวงจรของรายได้ทางเศรษฐกิจ การที่ผู้ให้กู้และผู้กู้รับรู้ร่วมกันว่าการกู้ยืมนั้นจะนำไปใช้จ่ายในกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีอยู่จริงในพื้นที่ชุมชน อันอยู่ในวิสัยที่จะประเมินรายได้และความสามารถในการชำระคืน ดังนั้น การสร้างระบบการกู้ยืมและการรับรู้ร่วมกันระหว่างผู้ให้กู้ และผู้กู้ จึงมีความสำคัญและจำเป็นมากกว่าหลักทรัพย์ การสร้างความรับผิดชอบร่วมกันของกลุ่มชุมชน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่กำกับการใช้จ่ายเงินที่กู้ยืมไป และเป็นหลักประกันที่ผู้ให้กู้จะได้รับเงินกู้คืนจากผู้กู้ยืม

          ยูนุสและคณะ จึงได้จัดให้มีการจัดตั้งกลุ่มและเครือข่ายผู้กู้ยืมเป็นกลุ่มรายย่อยที่พัฒนาจากรูปแบบของกลุ่มชุมชนที่มีอยู่แล้ว ที่เรียกว่า Self-Help Group: SHG กลุ่มละ 5 คน โดยที่สมาชิกแต่ละคน เป็นคนในชุมชนเดียวกัน ไม่ใช่พ่อ-แม่-ลูก หรือเป็นญาติพี่น้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจน หรือไม่เคยมีรายได้จากการประกอบการมาก่อน พร้อมกับสร้างหลักสำคัญของการรวมกลุ่มที่เรียกว่าหลักครองตน 16 ประการ ประกอบด้วย (1) เราจะนำมาซึ่งความพูนสุขของครอบครัว (2) เราจะสร้างบ้านใหม่ตามความสามารถให้เร็วที่สุด จะไม่อาศัยบ้านที่ทรุดโทรม (3) เราจะปลูกผักตามฤดูกาล ทานผักที่เราปลูก และขายส่วนที่เหลือ (4) เราจะเก็บรักษาพันธุ์พืชไว้ให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้ (5) เราจะวางแผนครอบครัวให้มีขนาดเล็ก ลดการใช้จ่าย คำนึงถึงสุขภาพ (6) เราจะจัดการศึกษาให้เด็ก รับประกันที่จะจัดค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้โดยเฉพาะ (7) เราจะสร้างสิ่งแวดล้อมและความสะอาดให้เป็นสภาพแวดล้อมสำหรับเด็ก (8) เราจะสร้างและใช้ส้วม (9) เราจะดื่มน้ำประปาที่สะอาด ถ้าไม่มีประปา จะต้มน้ำกิน (10) เราจะไม่ให้สินสอด จะไม่ร่วมสร้างค่านิยมการให้สินสอด (11) เราจะไม่สนับสนุนให้เด็กแต่งงานในวัยที่ไม่เหมาะสม (12) เราจะไม่สนับสนุนการลงโทษด้วยความไม่ยุติธรรม (13) เราจะลงทุนเพิ่มในกิจการที่สร้างรายได้เพิ่ม (14) เราจะอ่านเพื่อเพิ่มพูนความรู้ (15) เราจะอาสาทำงานแทนศูนย์ หากศูนย์มีเหตุขัดข้อง และ (16) เราจะรักษาไว้ซึ่งรูปแบบของกลุ่ม และเป็นส่วนสำคัญของ Social activities collectively

          การจัดตั้งเครือข่ายผู้กู้ยืม จะประกอบขึ้นด้วยกลุ่ม 10 กลุ่ม รวมกันเป็น 1 ศูนย์ มีการเลือกตั้งประธานขึ้นมาทำหน้าที่บริหารและกำกับเครือข่ายในเรื่องต่าง ๆ เช่น การดูแลหรือการจัดการระหว่างกลุ่ม เพื่อแก้ปัญหากลุ่มที่มีข้อติดขัดและสร้างความเสียหายต่อเครือข่าย พร้อมกันนั้น ก็ส่งเสริมให้กลุ่มจัดทำ Group fund เพื่อสร้างเงินออมของกลุ่ม โดยเบื้องต้นจะเรียกเก็บเพิ่มจากทุกครั้งที่มีการชำระคืนเงินธนาคารในอัตรา 10 ธากา โดยที่เงินจำนวนนี้ จะทำหน้าที่ชดเชยแทนหนี้ของสมาชิก ในกรณีที่มีเหตุขัดข้องในการชำระหนี้ประจำงวด

ภาพประกอบที่ 2 Microcredit-Microfinance การสร้างความเชื่อถือ-รวมตัวกัน-ไว้วางใจกันของ/จากกลุ่ม (เล็กๆ)-ไปสร้างประกันเข้าถึงแหล่งทุนรายย่อย
ที่มา: พัฒนาโดยผู้เขียน

          การจัดตั้งกลุ่มเพื่อสร้างความเชื่อถือเบื้องต้น (Microcredit) เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นเงินกู้รายย่อยสำหรับการสนับสนุนกิจกรรมเบื้องต้นในการดำรงชีพ การประกอบอาชีพ และการสร้างรายได้หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า Microfinance ต่อมาในปี ค.ศ. 1983 ได้รับการจัดตั้งเป็นธนาคาร เรียกว่า “ธนาคารกรามีน” (Grameen Bank) โดยการบริหารงานของธนาคาร จะจัดให้มีพนักงานส่งเสริมประจำสาขา 1 คน เพื่อสนับสนุนและทำงานร่วมกับศูนย์/เครือข่ายพื้นฐานของผู้กู้ยืม (เท่ากับว่า เจ้าหน้าที่ส่งเสริมจะมีข้อมูลครัวเรือนในความรับผิดชอบดูแล 10 กลุ่ม หรือ 50 คน หรือ 50 ครัวเรือน) กระตุ้นให้สมาชิกของกลุ่มให้แสดงความคิดเห็น/สนับสนุนต่อการกู้ยืม จัดให้มีการประชุมประจำสัปดาห์เพื่อประเมินสถานการณ์ร่วมกันและจัดการแก้ไขร่วมกัน การเลือกหัวหน้ากลุ่มหรือประธานกลุ่มเป็นไปตามหลักประชาธิปไตย 1 คน 1 เสียง ในขณะเดียวกันพนักงานก็มี KPI วัดผลความสำเร็จ 5 ระดับด้วยกัน คือ ระดับที่หนึ่ง-ดาวสีเขียว จากผลงานที่การกู้ยืมมีการชำระคืน 100% ระดับที่สอง-ดาวสีน้ำเงิน จากการกู้ยืมนั้นมีกำไร และผู้กู้มีการใช้กำไรนั้นเพื่อคนอื่น ระดับที่สาม-ดาวสีม่วง จากการที่ผู้กู้มีการสร้างบัญชีเงินฝาก ระดับที่สี่-ดาวสีน้ำตาล มีการกู้เงินเป็นทุนสำหรับการศึกษา และระดับที่ห้า-ดาวสีแดง คือ การที่ผู้กู้พ้นจากความยากจน

          ผลของการดำเนินงานข้างต้น ได้ทำให้ศาสตราจารย์ยูนุส และธนาคารกรามีน ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพในปี ค.ศ. 2006 (30 ปี หลังจากการเริ่มงานที่หมู่บ้านโชบรา) หลังจากการเริ่มให้บริการแหล่งเงินทุนในปี ค.ศ. 1978 มาจนถึงปี ค.ศ. 2022 คนจนในบังคลาเทศ ได้เข้าถึงบริการเงินกู้ของธนาคารกรามีน ไปแล้ว 10,186,872 ราย ครอบคลุมหมู่บ้านทั้งในเมืองและชนบทในทุกภูมิภาค คิดเป็น 94% ของจำนวนหมู่บ้านของประเทศ และ 97% ของผู้กู้เป็นสตรี ในขณะเดียวกัน หุ้นของธนาคาร 97% ก็เป็นหุ้นของเครือข่ายผู้กู้ (ตอนจัดตั้งรัฐบาลถือหุ้น 60% เครือข่ายผู้กู้ยืม 40%) ผลงานเหล่านี้ ได้รับการศึกษาประเมินผลโดยธนาคารโลก พบว่า ธนาคารกรามีนได้แก้ปัญหาความยากจนของบังคลาเทศในระหว่างปี ค.ศ. 1991-1999 ได้มากถึง 40% (Sathi, 2016)

 

Lesson Learned

          กรณีศึกษาของศาสตราจารย์ ดร.มูฮัมหมัด ยูนุส และธนาคารกรามีนข้างต้น ถือได้ว่า เป็นนวัตกรรมสังคม ที่สร้างสรรค์ความเป็นนวัตกรรมขึ้นตามการจัดระบบความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดำรงอยู่-เพื่อนบ้านในย่านชุมชนเดียวกัน ที่มีความใส่ใจ เกื้อกูลซึ่งกันและกัน และการรวมกลุ่ม SHG มาสร้างเป็นกลไกสำหรับการเข้าถึงแหล่งทุนแทนการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเครื่องมือหรือกลไกที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับการแก้ปัญหาความยากจนโดยการสร้างความสามารถเป็นเบื้องต้นของคนจน ด้วยคนจน นอกจากนั้น ยังได้สร้างอาชีพ การงาน ความมั่นใจ และความเชื่อถือในสังคมของสตรี (ที่ปกติจะไม่มีโอกาสทำงานสร้างรายได้ให้กับครอบครัว) ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่สำคัญของสังคมในประเทศบังคลาเทศ

 

เรียบเรียงโดย
ดร.สุนทร คุณชัยมัง
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนานวัตกรรมสังคม วิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
พฤษภาคม 2568

 

Reference

Grameen bank. (n.d.). Grameen Bank Founder. https://grameenbank.org.bd/about/founder

Sathi, S. (2016). Grameen Bank: The Struggle of Dr. Muhammad Yunus. Dhaka, Bangladesh.

Adon Publication.

 

Related Posts

Leave a Comment